Swanson Ultra Albion Chelated Chromium Glycinate 200 mcg/ 180 Caps

โครเมียมไนนิโคติเนตไกลซิเนต คีเลชั่น ที่ดีที่สุด เสริมการทำงานของอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคผนังหลอดเลือดแข็งตัว

ราคา: 420 บาท
  •  อาหารเสริมคุณภาพสูง ช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ เสริมการทำงานของอินซูลิน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • mineral glycinate chelated TRAACS® จดสิทธิบัตร ในรูปแบบ chelated สำหรับการดูดซึมที่ดีที่สุด chromium nicotinate glycinate chelate เป็นโครเมียมในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ดีที่สุด
  • ใน 1 เม็ด บรรจุ โครเมียมไนนิโคติเนตไกลซิเนต คีเลท 200 mcg

*** หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริมโครเมียมที่มีคุณภาพสูง Swanson Ultra Albion Chelated Chromium Glycinate ไม่ผิดหวังแน่นอน เป็นโครเมียมดูดซึมดีเยี่ยม ดีที่สุด สิทธิบัตรโดย Albion บริษัทผู้ผลิตแร่ธาตุระดับโลก สำหรับข้อมูลอัลเบียนดูเพิ่มเติมได้ที่ www.albionminerals.com

อะไรทำให้ Chelated Mineral Glycinates คุณภาพเหนือกว่า?
Swanson Ultra Albion Chelated Chromium Glycinate เป็นแร่ธาตุที่ผ่านการคีเลชัน (Chelation) แล้ว ทำให้ดูดซึมที่ลำไส้ได้ดี

คีเลชันคืออะไร ?
คีเลชัน (Chelation) เป็นกระบวนการที่แร่ธาจุถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปที่ย่อยและดูดซึมได้ อาหารเสริมแร่ธาตุมักไม่ได้ผ่านกระบวนการคีเลชัน จึงต้องถูกกระบวนการย่อยเปลี่ยนให้เป็นรูปที่ย่อยและดูดซึมได้เสียก่อน ร่างกายจึงจะนำไปใช้งานได้ แต่สำหรับหลายคน กระบวนการคีเลชันตามธรรมชาติเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้แร่ธาตุจำนวนมากที่รับประทานเข้าไปถูกนำไปใช้ได้จริงเพียงบางส่วนเท่านั้น (ไปใช้ได้จริงเพียง ร้อยละ 2-10 เท่านั้น) และจากส่วนน้อยที่ถูกดูดซึมนั้น ครึ่งหนึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายแร่ธาตุที่ผ่านการคีเลชันโดยการจับเข้ากับกรดแอมิโน จะถูกดูดซึมได้ดีกว่าแบบไม่ผ่านการคีเลชัน 3-10 เท่า!

วิธีรับประทาน: ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1-2 เวลา พร้อมอาหาร

Code: SWU078

Swanson Ultra Albion Chelated Chromium Glycinate 200 mcg/ 180 Caps
  • Terrific mineral supplementation for fitness and metabolic assistance
  • Patented mineral glycinate chelated form for optimum absorption
  • 200 mcg per serving

Product Description:

Albion Chelated Chromium Glycinate

"This supplement is extremely effective and my body being as temperamental as it is finds it easy to digest and use." ~product review by Chad
Chromium is America's favorite mineral supplement for fitness and metabolic support. This patented amino acid chelate from Albion ensures optimum absorption for superior results. With 200 mcg per serving, this formula provides 167% of your daily value. For more information on Albion products, see www.albionminerals.com.
What Makes Chelated Mineral Glycinates So Superior? First we need to understand the chelation process. Chelation is the result of minerals becoming chemically bound to amino acids in a very specific manner. Chelation occurs naturally during the digestive process to facilitate transport of minerals across the intestinal wall so that they may be utilized throughout the body. Amino acids are not the only "chelators" available, but they are ideal for minerals. The body is very efficient at absorbing individual amino acids, and Albion has identified the amino acid glycine as the preferred molecule for creating organic chelated minerals. Glycine is readily identified and absorbed across the intestinal wall, and Albion's glycinate chelates are actually small enough to transport right into the cells themselves!

Product Label:

Albion Chelated Chromium Glycinate

Supplement Facts

Serving Size 1 Capsule
Amount Per Serving% Daily Value
Chromium(TRAACS® chromium nicotinate glycinate chelate)200 mcg167%
Other ingredients: Rice flour, gelatin.
Suggested Use: As a dietary supplement, take one capsule one to two times per day with food and water.
WARNING: Because chromium may enhance insulin sensitivity and affect glucose levels, diabetics and hypoglycemics should consult their healthcare provider before using this product.
TRAACS®, Albion® and the Gold Medallion® are registered trademarks of Albion Laboratories, Inc.


Chromium โครเมียม

โครเมียมในร่างกายของเรามีโครเมียมประมาณ 6 มิลลิกรัม และปริมาณนี้จะลดลงเรื่อยๆ เมื่ออายุเรามากขึ้น โครเมืยม เกี่ยวข้องกับเมตาบอลิซึม ของคาร์โบไฮเดรต และไขมัน โดยเฉพาะการใช้กลูโคสในร่างกาย
กลุ่มที่เสี่ยงต่อการขาดแร่ธาตุชนิดนี้ ได้แก่ กลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และนักกีฬา โดยร่างกายจะเก็บโครเมียมไว้ในร่างกายได้น้อยลงเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น และเกือบ 90% ของผู้ใหญ่โดยทั่วไปยังได้รับโครเมียมไม่เพียงพอต่อร่างกาย ซึ่งการขาดธาตุโครเมียมนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจเกี่ยวข้องกับโรคผนัง เส้นเลือดแข็งตัว และโรคเบาหวานได้
แหล่งอาหารที่สามารถพบแร่ธาตุโครเมียม ได้แก่ ไก่ หอยกาบ ตับลูกวัว จมูกข้าวสาลี น้ำมันข้าวโพด บริเวอร์ยีสต์ เป็นต้น โดยหลักประกันที่ดีที่สุดที่คุณจะมั่นใจได้ว่าร่างกายของคุณไม่ได้ขาดแร่ ธาตุนี้ คือการรับประทานอาหารให้หลากหลาย ซึ่งจะทำให้คุณได้รับสารอาหารอื่นๆที่จำเป็นอีกด้วย และการได้รับแร่ธาตุโครเมียมในปริมาณมากเกินไป ในปัจจุบันยังไม่พบว่ามีเป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโครเมียม อยู่ในรูปของ โครเมียม พิโคลิเนต (Chromium Picolinate) หรือ โครเมียม โพลีนิโคไทเนต (Chromium Polynicotinate) โครเมียมเป็นแร่ธาตุจำเป็น ซึ่งร่างกายต้องการในปริมาณเล็กน้อย มีบทบาทสำคัญในเมแทบอลิซึมของคาร์โบไฮเดรต และไขมัน การเสริมโครเมียมทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกายมีประสิทธิภาพในการนำกลูโคสไปใช้ได้เพิ่มขึ้น

ประโยชน์ของธาตุโครเมียม

  • - ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในร่างกายและไปช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
  • - แร่ธาตุโครเมียมช่วยการเจริญเติบโต
  • - โครเมียมทำงานจะทำงานร่วมกับอินซูลิน ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การเผาผลาญน้ำตาล โครเมียมทำหน้าที่เสริมการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน โดยเป็นส่วนประกอบของ glucose tolerance factor ซึ่งมีความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอินซูลินต่อตัวรับอินซูลิน (insulin receptor)

    >> ในผู้ป่วยโรค เบาหวาน แบบที่ 2 โครเมียมมีส่วนในการช่วยรักษาปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้คงที่ (ในขบวนการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต) ในงานวิจัยพบว่าอินซูลินที่หลั่งจากตับอ่อนจะมีความสัมพันธ์กับระดับน้ำตาล ในเลือด แต่ปัญหาคือเซลร่างกายผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่ออินซูลิน โครเมียม เป็นส่วนประกอบของสารที่เรียกว่า GTF (Glucose tolerance factor) โดยทำงานร่วมกับ ไนอาซิน และ กรดอะมิโน อีกหลายชนิดจะไปช่วยกระตุ้นให้เซลร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้ระดับน้ำตาลเข้าสู่ระดับปกติ มีการทดลองซึ่งเป็นการทดลองแบบที่ทั้งผู้ทดสอบและผู้ถูกทดสอบจะไม่มีใครทราบ เลยว่าได้ยาที่มีส่วนผสมของ โครเมียม หรือไม่มี เพื่อตัดตัวแปรด้านความรู้สึกของผู้เข้าการทดลองที่อาจะมีผลต่อการวัดผลใน ประสิทธิภาพของ โครเมียม ซึ่งผลการทดลองสนับสนุนสรรพคุณด้านการลดน้ำตาลในเลือดของ โครเมียม

    เนื่อง จาก โครเมียม ช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการทำให้ glucose tolerance ดีขึ้น ดังนั้นการได้รับ โครเมียม จึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรค เบาหวาน ชนิดที่ 2 คนที่มีอาการระดับน้ำตาลในเลือดต่ำก็มีอาการดีขึ้น เมื่อได้รับ โครเมียม 200 ไมโครกรัมต่อวัน
  • - ทำงานเป็นเกราะป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยป้องกันอาการขาดน้ำตาล และอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรงเฉียบพลัน
  • - ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดทั้งหมดในร่างกาย และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีให้แก่ร่างกาย
    >> จากหลักฐานการศึกษาวิจัยพบว่า โครเมียม (ทั้งในรูปแบบพิกโคลิเนตและอื่นๆ) พบว่ามีผลในการลดระดับ
    คลอเลสเตอรอล ในร่างกาย โดยการมีบทบาทไปเพิ่ม HDL หรือ คลอเรสเตอรอล ชนิดดี และ ลดระดับ คลอเรสเตอรอล ทั้งหมด
  • - ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว
  • - เป็นตัวที่มีบทบาทร่วมกับ RNA ในการสังเคราะห์โปรตีน
  • - ช่วยนำโปรตีนไปยังส่วนที่ต้องใช้ในร่างกาย
  • - ช่วยป้องกันพิษจากตะกั่ว
  • - ช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง และช่วยลดความดันโลหิต
  • - ช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง


ภาวะการขาดโครเมียม

  • จะทำให้ระดับกลูโคส อินซูลิน คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ สูงขึ้น และระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (high density lipoproteins, HDL)ลดลง
  • การขาดโครเมียมอย่างรุนแรงมีความผิดปกติของประสาท และสมอง อาการผิดปกตินี้กลับสู่ปกติได้โดยการให้โครเมียมเสริม การเสริมโครเมียมในเด็กขาดอาหาร ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยที่ได้รับอาหารทั้งหมดทางหลอดเลือดเป็นเวลานาน ช่วยให้ความทนต่อกลูโคสดีขึ้น
  • การขาดโครเมียมเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับโรคผนังเส้นเลือดแข็งตัว และโรคเบาหวาน
การขาดโครเมียม ทำให้เกิดอาการเหมือนกับคนที่มีภาวะต้านอินซูลิน และเบาหวานชนิดที่ 2 ระดับโครเมียมในเลือดที่ต่ำ สัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ผู้ป่วยเบาหวานจะมีระดับโครเมียมในพลาสมาลดลง จากการศึกษาวิจัยในคนและสัตว์ทดลองพบว่า ระดับโครเมียมในร่างกายต่ำมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติในเมตาบอลิซึมของ อินซูลิน กลูโคส และไขมัน ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

ผลของการขาดโครเมียม

  • จะเกิดการสะสมไกลโคเจนไว้ที่ตับ
  • การเผาผลาญกรดอะมิโนผิดปกติ
  • คอเลสเตอรอลในเลือดสูง
  • ผนังเส้นเลือดเสื่อม
  • การทำงานของอินซูลินไม่สมบูรณ์
  • ลดการเจริญเติบโต
  • เกิดอาการคล้ายเบาหวานที่เกิดจากการขาดโครเมืยม โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ และผู้สูงอายุ


ปริมาณที่แนะนำ

- เด็ก 7 ขวบขึ้นไปรวมทั้งหญิงให้นมบุตร ควรได้รับวันละ 0.05-0.2 มิลลิกรัม,
- วัยผู้ใหญ่แนะนำให้รับประทานประมาณ 50-200 ไมโครกรัม
อัตรา การดูดซึมโครเมียม ในอาหารชนิดแต่ละอย่างจะแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดจะมีการดูดซึมไม่เกินร้อยละ 3 ของโครเมียมทั้งหมดที่รับประทาน ส่วนที่เหลือจะถูกขับออกทางปัสาวะ และอุจจาระบางส่วน


คำแนะนำในการรับประทานธาตุโครเมียม

  • โครเมียมในรูปของอาหารเสริมจะพบอยู่ได้ในอาหารเสริมประเภทแร่ธาตุรวมคุณภาพสูง โดยอาจมีปริมาณโครเมียมตั้งแต่ 50-300 ไมโครกรัม
  • โครเมียมในอาหารเสริม หากเลือกได้แนะนำให้เลือกที่อยู่ในรูปแบบของ “โครเมียมไดนิโคติเนตไกลซิเนต“
  • ปัจจุบันยังไม่มีขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันอย่างเป็นทางการ แต่โดยทั่วไปแล้วในวัยผู้ใหญ่แนะนำให้รับประทานประมาณ 50-200 ไมโครกรัม
  • การรับประทานโครเมียมในปริมาณมาก อาจมีผลไปรบกวนการดูดซึมของสังกะสี ได้ ดังนั้นคุณควรรับประทานสังกะสีให้มากขึ้นกว่าเดิม
  • ร้อยละ 90% ของวัยผู้ใหญ่โดยทั่วไปได้รับโครเมียมจากอาหารไม่เพียงพอ
  • หากร่างกายคุณมีแร่ธาตุโครเมียมในร่างกายต่ำ คุณอาจลองรับประทานสังกะสีเสริมอาหารด้วยเหตุผลบางประการ เพราะสังกะสีจะช่วยทดแทนการขาดโครเมียมได้
  • แม้โครเมียมจะมีส่วนช่วยในการรักษาโรคเบาหวาน แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการรับประทาน
  • ไม่ควรรับประทานธาตุโครเมียมร่วมกับแคลเซียมคาร์บอเนตหรือยาลดกรดพร้อมกันเพราะแคลเซียม อาจไปขัดขวางการดูดซึมของโครเมียมได้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น