Swanson Ultra Maximum Strength Astaxanthin 12 mg/ 30 Sgels

สารสกัดสาหร่ายแดงแอสตาแซนธินสุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระอันดับหนึ่ง เข้มข้นสูง 12 mg ต่อเม็ด

ราคา: 1150 บาท

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้แรงกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า, CoQ10 800 เท่า, วิตามิน อี 550 เท่า, Green tea catechins 550 เท่า, Alpha lipoic acid 75 เท่า, เบต้า แคโรทีน 40 เท่า และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า

ประโยชน์ของสารแอสตาแซนธิน
นอกจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยม ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆดังนี้
● ช่วยให้ผิวคงความอ่อนวัย ลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและจุดด่างดำ
● ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์
● ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่างกาย
● ช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหาร
● ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก

วิธีรับประทาน: วันละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร

Code: SWU845

Swanson Ultra Maximum Strength Astaxanthin 12 mg/ 30 Sgels

Featured review
"I have been taking the 4 mg. Astaxanthin, which I purchased from Swanson, for quite some time. I want it in my daily regimen as part of my eye health / vision program, as well as a star player on my Antioxidant Team. ... Frankly, I'm very jazzed about this product. Works for me." ~product review by FitDoc1

- Maximum potency antioxidant protection
- Obtained from nature's best source, the microalgae Haematococcus pluvialis
- Extracted using advanced supercritical CO2 extraction methods that do not require chemical solvents

When it comes to antioxidant protection, each of us has to have enough to meet the challenges of our free-radical workload, which can depend on variables like mental and physical stress, air and water pollution, physical activity levels, concentrations of chemicals in our foods and other factors. In addition, the dietary antioxidants we depend on to defend us against free radicals tend to concentrate in certain organs or tissues, adding another consideration to the equation. This is why we've developed our new Maximum-Strength Astaxanthin with 12 mg per softgel to help you tailor your antioxidant intake to meet your specific needs.

As a fat-soluble antioxidant, astaxanthin is particularly beneficial for the brain, skin and other organs with high concentrations of fatty acids. In the skin, astaxanthin is especially valuable for protecting against free radicals generated by the activity of the sun's ultraviolet radiation. It occurs naturally in many foods, including salmon, crab and lobster (to which it provides their rich red color), but the best source by far is the microalgae Haematococcus pluvialis, which can yield 8,000 times the astaxanthin concentration found in salmon. Our astaxanthin is harvested from this unique microalgae through an advanced supercritical CO2 extraction process without the use of any chemical solvents. For optimal effectiveness, our softgels are fortified with medium-chain triglycerides (MCTs) to enhance the bioavailability of this fat-soluble nutrient.

Supplement Facts

Serving Size 1 Softgel
 Amount Per Serving% Daily Value
Astaxanthin(from haematococcus pluvialis)12 mg*
*Daily Value not established.
Other ingredients: Safflower oil, gelatin, purified water, glycerin, d-alpha tocopherol, medium-chain triglycerides oil (palm).
Suggested Use: As a dietary supplement, take one softgel per day with water.

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin)

แอสตาแซนธิน (Astaxanthin) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้แรงกว่า วิตามิน ซี 6,000 เท่า, CoQ10 800 เท่า, วิตามิน อี 550 เท่า, Green tea catechins 550 เท่า, Alpha lipoic acid 75 เท่า, เบต้า แคโรทีน 40 เท่า และ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 17 เท่า ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความแข็งแรงให้แก่ข้อต่อกระดูก ลดริ้วรอย ผิวพรรณสดใส บำรุงสายตา บำรุงสมอง และเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อร่างกาย
ประโยชน์ของสารแอสตาแซนธิน
นอกจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีเยี่ยม ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆดังนี้
● ช่วยให้ผิวคงความอ่อนวัย ลดริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและจุดด่างดำ
● ช่วยบำรุงสายตา ลดอาการเมื่อยล้าของสายตาจากการใช้คอมพิวเตอร์
● ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อร่างกาย
● ช่วยดูแลสุขภาพกระเพาะอาหาร
● ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองแตก

ศักยภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ
ปัจจุบันแอสตาแซนธิน เป็นสารที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระได้ดีที่สุดแอสตาแซนธิน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทางเลือกใหม่ ที่ให้ได้มากกว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ ด้วยโครง สร้างทางเคมีรูปแบบจำเพาะเหมือนกับสารแคโรทีนอยด์ และความสามารถที่เหนือกว่าในการปรับตัวอยู่ในชั้นผนังเซลล์ได้ทั้งชั้นน้ำ และชั้นไขมัน

การเปรียบเทียบกับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ (วิตามินอีธรรมชาติ วิตามินเอ วิตามินซี เบต้าเเคโรทีน ไลโคปีน ลูทีน)
+ ป้องกันการเกิดเพอร์ออกซิเดชั่นของไขมันได้อย่างดีเยี่ยม
+ เป็นสารกำจัดสารอนุมูลอิสระที่แรงที่สุด
+ กระตุ้นการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน
+ มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันการอักเสบ
+ เมื่อใช้ร่วมกับไลโคปีนแล้ว แอสตาแซนธินสามารถต้านการออกซิเดชั่นได้ดีกว่าการใช้ไลโคปีน ลูเทอีนหรือ แอสตาแซนธินอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างมีนัยสำคัญ
+ เมื่อใช้ร่วมกับกรดไลโปอิก เรสเวอราทรอล เออโกไธไอนีน กรดแอสคอร์บิก โสม กระเทียม แปะก๊วย พบว่าสามารถเพิ่มศักยภาพการต้านสารอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ
+ ผลการทดสอบพบว่า สามารถป้องกันสารต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่า เมื่อใช้ร่วมกับโทโคไทรอีนอล

แอสตาแซนธิน : สุขภาพผิว
ริ้วรอยแห่งวัยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไม่ สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่มีปัจจัยบางอย่างที่เร่งทำให้ริ้วรอยนั้นเกิดเร็วขึ้นและชัดเจนมากขึ้น เช่น รังสี UV จากแสงอาทิตย์ มลพิษจากสภาวะแวดล้อม และระดับโอโซนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยเนื่องจากชั้นเซลล์ผิวถูก ทำลาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง นอกจากนั้นยังมีสาเหตุที่เกิดจากอาหารที่รับประทานและลักษณะนิสัยการดำเนิน ชีวิต ที่ทำให้การซ่อมแซมผิวหนังตามธรรมชาติและระบบการต่อต้านอนุมูลอิสระของร่าง กายเสียสมดุล ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร่วมกับผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม เข้ามาช่วยในการบำรุงสุขภาพผิวของเราในระยะยาว
คนทั่วไปจะ รู้จักสารแคโรทีนอยด์ที่ชื่อว่าเบตา-แคโรทีน (โปรวิตามิน A) และวิตามิน E เป็นอย่างดี แต่ในปัจจุบันได้มีการศึกษาค้นคว้าสารแคโรทีนอยด์ที่ชื่อว่า Astaxanthin ซึ่งผลิตได้จากไมโครแอลจีที่มีชื่อว่า Haematococcus pluvialis ว่ามีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเบตา-แคโรทีน (โปรวิตามิน A) และวิตามิน E (Miki, 1991)
จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่ใช้ Astaxanthin ที่อยู่ในรูปของเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเวลา 4 ถึง 6 สัปดาห์จะมีริ้วรอยแห่งวัยที่เกิดจากรังสี UV ลดลง ดังนั้นจึงสรุปว่า Astaxanthin มีคุณสมบัติในการช่วยบำรุงผิวทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย ช่วยลบเลือนริ้วรอย และสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังจากรังสี UV ได้
ตารางแสดงประโยชน์ของ Astaxanthin ดูแลรักษาสุขภาพผิวได้หลายวิธีดังนี้
ประโยชนกระบวนการเครื่องสำอางรับประทาน
1. เพิ่มความสามารถของผิว ในการปกป้องสารที่จำเป็น สำหรับผิวฟื้นฟูสมดุล ของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ตามธรรมชาติ (SOD, CAT, GSH) ป้องกันการเกิด lipid peroxidation//
2. ลดรอยผื่นแดงยับยั้งกระบวนการอักเสบ//
3. ปกป้อง และลดริ้วรอย ที่เกิดจากรังสี UV
- เพิ่มความเต่งตึง และความยืดหยุ่นให้กับผิว
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
ปกป้องเซลล์ผิวจากสารอนุมูลอิสระ ทำให้กระบวนการซ่อมแซมผิวชั้นคอลลาเจนเป็นไปอย่างปกติ//

สุขภาพผิวที่ดีจากการรับประทานอาหาร
“สวยจากภายใน” หรือการบำรุงผิวด้วยโภชนาการและอาหารเสริม เป็นแนวโน้มที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น
จาก การวิจัย(Yamashita 2002) โดยทำการทดลองกับผู้หญิงจำนวน 8 คนที่มีผิวแห้ง (อายุเฉลี่ย 40 ปี) ทานอาหารเสริมที่มี Astaxanthin 2 มิลลิกรัม และ tocotrienol ธรรมชาติ (Super vitamin E) 40 มิลลิกรัมเป็นประจำทุกวัน จากนั้นทำการเก็บข้อมูลในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 และนำไปเปรียบเทียบกับค่าเริ่มต้นก่อนใช้ พบว่าความแตกต่างสามารถวัดได้ภายใน 2 สัปดาห์ และ 4 สัปดาห์ พบว่าผู้ทดลองที่มีผิวแห้งมีการปรับปรุงสภาพผิวดังนี้: ระดับความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น (P<0.05) ,ปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติที่ผิวคงที่ และริ้วรอยลดลง และ พบว่าสิวเสี้ยนน้อยลง (P<0.01)

รูปที่ 1 อาหารเสริมเพื่อความงามมีผลช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณแก้มและตา (Yamashita, 2002)

รูปที่ 2 ภาพขยายของผิวหนังเมื่อเริ่มต้นทดลอง, สัปดาห์ที่ 2 และสัปดาห์ที่ 4
(Yamashita, 2002)
จากภาพจะเห็นได้ชัดว่าริ้วรอยมีการลดลงอย่างชัดเจน

Yamashita (2006) ได้ทำการศึกษาทดลองผู้หญิงที่มีลักษณะผิวหลายรูปแบบจำนวน 49 คนอายุเฉลี่ย 47 ปี โดยได้รับ Astaxanthin 4 มิลลิกรัม (2×2 มิลลิกรัม) และยาหลอก หลังจากสัปดาห์ที่ 6 พบว่าผู้ที่รับประทาน Astaxanthin 4 มิลลิกรัมต่อวันมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้นโดยการสอบถามข้อมูล (รูปที่ 3)

รูปที่ 3 ผลการสอบถามอาสาสมัคร หลังจากรับประทานอาหารเสริม Astaxanthin 6 สัปดาห์ จากการสอบถามอาสาสมัคร(Yamashita, 2006)

จากกราฟพบว่าผู้ที่ทานอาหารเสริมจะมีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น
การทดสอบสภาพผิวด้วยเครื่องมือ พบว่ากลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมนั้นสุขภาพผิวดีขึ้นดังนี้ ความชุ่มชื้น (P<0.05) และความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น (P<0.05) นอกจากนี้การทดสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่ รับประทานอาหารเสริมจะมีริ้วรอยลดลง (P<0.05) และความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้น (P<0.05) ในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 3 และ 6 (รูปที่ 4) ซึ่งผลที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนเนื่องจากการฟื้นฟูผิวหนังจะเริ่มในสัปดาห์ ที่ 4-5 และจะเพิ่มสูงสุดในสัปดาห์ที่ 6 ซึ่งเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า Astaxanthin สามารถช่วยบำรุงและฟื้นฟูสภาพผิวได้

รูปที่ 4 แสดงการวิเคราะห์ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านผิวหนังในสัปดาห์ที่ 3 และ 6 ของการรับประทานอาหารเสริม Astaxanthin (Yamashita, 2006)

กลไกการทำงานผิวหนัง ประกอบด้วยชั้นต่างๆ สามชั้นได้แก่ หนังกำพร้า, ผิวหนังแท้ และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ชั้นผิวหนังแท้ประกอบด้วยคอลลาเจน อิลาสติน และเนื้อเยื่ออื่นๆ ที่ค้ำจุนโครงสร้างของผิว และยังเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ สามารถถูกทำลายได้ด้วยรังสี UV
การป้องกันริ้วรอย รังสี UV ที่ส่งผลกระทบกับผิวมีอยู่สองรูปแบบได้แก่ รังสี UVA และ UVB รังสี UVB นั้นมีความยาวคลื่นสั้นกว่ารังสี UVA และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยไหม้ของผิวและการผลิตเม็ดสีเมลานิน แต่รังสี UVA ที่มีความยาวคลื่นยาวกว่าเป็นสาเหตุหลักของการแก่ก่อนวัย รังสี UVA นั้นทะลุทะลวงเข้าไปในชั้นหนังแท้ ทำลายเนื้อเยื่อคอลลาเจนทำให้เกิดริ้วรอย (รูปที่ 5)
รูปที่ 5 ภาพแสดงผลกระทบของรังสี UVA, UVB และโอโซนที่มีผลต่อผิวหนัง

รังสี UV ทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและสารที่มีชื่อว่า matalloproteinases (MMP) ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้เกิดริ้วรอยเพราะสารทั้งสองจะไปทำลายคอลลาเจนที่ชั้นผิว โชคดีที่ผิวจะมีกลไกในการซ่อมแซมคอลลาเจนที่ถูกทำลาย แต่การได้รับรังสี UV ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ซึ่งทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระและ matalloproteinases (MMP) ปริมาณมาก จะมีผลต่อการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดริ้วรอย การมี Astaxanthin สามารถลดสารอนุมูลอิสระและปริมาณ matalloproteinases (MMP) และทำให้การสร้างเซลล์ใหม่มีความสมบูรณ์ ริ้วรอยลดลง (รูปที่ 6)

รูปที่ 6 ภาพแสดงการกำจัดสารอนุมูลอิสระโดยใช้ Astaxanthin ช่วยในกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่

Astaxanthin ปกป้องผิวจากจากสารอนุมูลอิสระ
ออกซิเจน ในเซลล์สามารถก่อตัวเป็นสารอันตรายที่เรียกว่า สารอนุมูลอิสระ (ROS) หรือแอกทีฟออกซิเจนได้ ถ้าได้รับพลังงานจากรังสี UV มากพอ สารเหล่านี้ได้แก่ สารออกซิเจนโมเลกุลเดียว ซุปเปอร์ออกไซด์ และ ไฮดรอกซิล (ทำให้เกิดสารเปอร์ออกซิล) สารเหล่านี้พยายามที่จะแย่งอิเลกตรอนจากโมเลกุลข้างเคียงเพื่อทำให้ตัวเอง เสถียรเช่น DNA, ฟอสโฟลิพิด เอนไซม์ และโปรตีน
Astaxanthin สามารถจับตัวกับออกซิเจนโมเลกุลเดียวเหล่านี้ และสามารถยับยั้งการเกิด lipid oxidation ดีกว่าสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ มาก และควบคุม ROS ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า

การต่อต้านการอักเสบรอย ผื่นแดงหรืออาการอักเสบที่เกิดขึ้นหลังจากการสัมผัสกับแสงแดด สามารถควบคุมได้โดยสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ Yamashita (1995) แสดงให้เห็นจากการทดลองกับผู้ชายจำนวน 7 คน ที่ใช้ Astaxanthin ธรรมชาติทาที่ผิว พบว่าระดับของรอยบวมแดงที่เกิดจากแสงแดดลดลงอย่างชัดเจนถึง 60% ในชั่วโมงที่ 98 หลังจากสัมผัสแสง UVB ขณะนี้เราทราบว่า Astaxanthin ทำงานโดยยับยั้งตัวกลางที่ก่อให้เกิดการอักเสบและCytokines ผ่านทาง IkB kinase โดยขึ้นกับ NF-kB activation pathway (Lee et al., 2003)

ความปลอดภัยในการใช้กับเครื่องสำอางและอาหารเสริม
Astaxanthin ปลอดภัยสำหรับการใช้เป็นเครื่องสำอาง จากจำนวนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งหมด 45 คน (ทั้งชายและหญิง) ที่รับการทดสอบ Standard Japanese Patch พร้อมรายงานผลในเวลา 24-48 ชั่วโมงหลังการทดสอบ ผิวชั้นนอกนั้นเกิดอาการเนื่องจากพลาสเตอร์กาวเท่านั้น ไม่มีอาการที่เกิดจาก Astaxanthin แต่อย่างใด (Seki et al. 2002) นอกจากนี้ Koura (2005) ยังพบว่าไม่มีอาการทางลบใดๆ ในการสอบ Sensitization ในสัตว์
Astaxanthin อยู่ในรายการ JP Cosmetics และรายชื่อ INCI ในชื่อว่า Haematococcus pluvialis extract
โดยทั่วไปวิธีที่จะลดริ้วรอยก่อนวัยที่เกิดจากแสงแดดนั้น คือ การหลีกเลี่ยงให้ห่างไกลจากแสงแดดและการใช้ครีมกันแดดในการปกป้องผิว แต่อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปคนเราไม่สามารถปกป้องผิวได้อย่างดีพอ ดังนั้นการใช้สารแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ Astaxanthin สำหรับใช้เป็นเครื่องสำอางและเป็นอาหารเสริมจะมีคุณสมบัติในการช่วยลดริ้ว รอยก่อนวัยอันควร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น