Nutrex Hawaii Spirulina 3000 mg/ 360 Tablets

สาหร่ายสไปรูลิน่าเข้มข้น 1,000 มิลลิกรัมต่อเม็ด อุดมด้วยโปรตีน สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุชนิดต่างๆ มากที่สุดในโลก บำรุงร่างกาย ป้องกันโรค สุขภาพแข็งแรง ขนาดใหญ่สุดคุ้ม 360 เม็ด


ราคา: 2,290 บาท

• เบต้าแคโรทีน: จำเป็นสำหรับผิวพรรณ ดวงตา และระบบภูมิคุ้มกัน
• วิตามิน B12: จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือดแดง ระบบประสาท และการสังเคราะห์ DNA
• วิตามิน K1 และ K2: ส่งเสริมการแข็งตัวของเลือด และดูแลสุขภาพกระดูก ลดปัญหาโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้
• เอนไซม์ Superoxide Dismutase (SOD): สารต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบในร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์
• ซีแซนทีน (Zeaxanthin): สารแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ โดยเฉพาะการเสื่อมของดวงตา
• เป็นแหล่งที่ดีที่สุดของ กรดแกมมา-ไลโนเลอิก (GLA) ที่สำคัญต่อการเจริญโตและพัฒนาการของสมอง

วิธีรับประทาน: วันละ 3 เม็ด พร้อมอาหาร

Nutrex Hawaii Spirulina 3000 mg/ 360 Tablets 



Benefits of Hawaiian Spirulina: 
Spirulina is one of nature’s original superfood supplements that supports:*

*Immunity- Supports healthy aging by boosting the immune system*
*Cardiovascular - Supports normal cholesterol and lipid profiles*
*Energy- Supports a healthy and active lifestyle by providing good nourishment*
*Cells- Supports overall cellular health*

Suggested Use:
Take one 1000mg tablet 3 times daily (3g). The 1000mg, 360 tablet supply lasts four months when taken at the recommended dose.
Check out our testimonials page to see how much spirulina has affected people’s lives.

Our spirulina is 100% vegetarian, 100% vegan, non-GMO, and free of gluten, lactose, soy, pesticides, herbicides, and solvents. Some of the key nutritional ingredients include:
• Beta Carotene
• Vitamin B12
• Vitamin K1 and K2
• Superoxide Dismutase
• Zeaxanthin
• Phytonutrients such as phycocyanin, GLA, SOD



สาหร่ายสไปรูลินา (Spirulina หรือArthrospira) คือ สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (Blue-green alga หรือ Cyanobacterium) สกุลหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็น เซลทรงกระบอกหลายเซลเรียงต่อกันเป็นเส้นสายตรง หรือขดเป็นเกลียว หรือ เป็นวง ไม่มีกิ่งก้าน เรียกว่า ไตรโคม ( trichome ) โดยเซลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-12 ไมโครเมตร ( m m) ขนาดความกว้าง ยาว ของไตรโคมขึ้นกับชนิด (Species) ของสาหร่าย และสภาวะแวดล้อมที่สาหร่ายเจริญเติบโต

สาหร่ายสไปรูลิน่าประกอบด้วยปริมาณ โปรตีนสูงถึง 70 % ของน้ำหนักแห้ง ซึ่งสูงกว่าปริมาณโปรตีนที่มีในเนื้อวัวหรือในไข่ถึง 3/2 เท่า ซึ่งโปรตีนจากสาหร่ายสไปรูลิน่านั้น เป็นโปรตีนที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นทั้ง 8 ชนิด และกรดอะมิโนจำเป็นนี้ เป็นสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการ แต่ร่างกายเรานั้นไม่สามารถผลิตกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้ได้นอก จากนั้นสาหร่ายสไปรูลินายังประกอบด้วยคลอโรฟิลล์และไฟโคไซยานินจำนวน มาก เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า คลอโรฟิลล์มีอยู่ในพืชมีสีเขียว ซึ่งช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง กระตุ้นให้แผลแห้งและหายเร็วขึ้น ช่วยร่างกายขับสารพิษต่างๆ ลดอาการท้องผูก ช่วยฟื้นฟูตับที่เสื่อมสลาย ช่วยลดอาการอักเสบของแผลในกระเพาะอาหาร ส่วนไฟโคไซยานินเป็นสารให้สีประเภทบิลิรูบิน เป็นคุณสมบัติเฉพาะของสาหร่ายสไปรูลิน่า มีความสำคัญยิ่งต่อการทำงานของตับและการย่อยสลายกรดอะมิโนช่วยทำ ให้ภูมิคุ้มกันโรคของร่างกายดีขึ้นและยังช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเนื้อ งอก และยังมีคาโรทีนอยด์ หรือ โปรวิตามิน(Provitamin) ซึ่งเป็นสารที่สามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอได้

นอกจากนี้หนังสือ"The Secreat of Spirulina"ยังได้กล่าวถึงปริมาณโปรตีนของสาหร่ายเกลียวทอง (แห้ง) เมื่อเปรียบเทียบกับอาหารชนิดอื่นไว้ดังนี้

เนื้อวัว 18-20%ถั่วเหลือง 33.35%
ไข่ 10-25%ปลาทู ปลาอินทรีย์ 20%
ข้าวสาลี 6-10%คลอเรลลา 40-56%
ข้าวเจ้า 7%สาหร่ายเกลียวทอง 69.5-71%

คณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุขได้ให้ข้อมูลว่าสาหร่ายเกลียวทองเป็นสาหร่ายที่มีโปรตีนสูง ถึง 60-70% เมื่อเปรียบเทียบกับพืชชนิดอื่นๆ เช่น ถั่วเหลือง ซึ่งให้โปรตีนเพียง 37% และยังพบว่าโปรตีนของสาหร่ายเกลียวทองมีปริมาณสูงกว่าเนื้อสัตว์ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยกรดแกมม่าไลโนเลนิก(GLA) ซึ่งกรดนี้มีคุณสมบัติช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน และสิวฝ้า, วิตามิน B12 ซึ่งถ้าขาดวิตามินนี้ก็จะทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ , วิตามินA ซึ่งอยู่ในรูปเบตาแคโรทีน มีบทบาทในการลดอนุมูลอิสระ ดังนั้นจึงนำมาใช้เป็นสารต้านมะเร็งชนิดต่างๆ และสาหร่ายนี้ยังเป็นแหล่งที่มีวิตามิน E, วิตามิน C ,วิตามิน B1, B12 และไนอาซีนสูง นอกจากวิตามินต่างๆแล้วยังมีเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายอีกมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี แมงกานีส ทองแดง เซเลเนียม แคลเซียม และยังประกอบด้วยสีเขียวของคลอโรฟิลล์อีกด้วย

สาหร่ายสไปรูลิน่าให้สารอาหารประเภทกรดอะมิโนที่จำเป็นในปริมาณสูงทั้ง 8 ชนิดดังนี้

1. ไอโซลูซีน (Isoluecine) ที่ช่วยในการเจริญเติบโตพัฒนาการของความทรงจำ และยังใช้ในการสังเคราะห์กรดอะมิโนไม่จำเป็นบางตัวในร่างกายอีกด้วย

2. ลูซีน (Luecine) กระตุ้นการทำงานของสมองทำให้กล้ามเนื้อมีกำลังมากขึ้น

3. ไลซีน (Lysine) เป็นโครงสร้างของเซลล์เม็ดเลือด ที่มีหน้าที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพิ่มความแข็งแรงให้กับระบบไหลเวียนโลหิต และทำให้การเจริญเติบโตของเซลล์ในร่างกายเป็นไปอย่างปกติ
4. เมไธโอนีน (Methionine) ช่วยในกระบวนการเผาผลาญไขมันและกรดไขมัน ทำให้ตับมีสุขภาพดี และยังลดความเครียดของสมอง
5. เฟนินอลานีน (Phynynollanine) ช่วยให้ต่อมไธรอยด์นำไปใช้สร้างไธรอยด์ฮอร์โมนที่ควบคุมพลังงานพื้นฐานของร่างกายที่เรียกว่า BMR
6. เทรโอนีน (Threonoine) ช่วยให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารเป็นปกติ และช่วยให้การดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสโลหิตเป็นไปได้ด้วยดี
7. ทริปโตแฟน (Tryptophan) ทำให้ร่างกายสามารถนำเอาวิตามิน B มาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งส่งผลทำให้ระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น เชื่อว่าให้ผลในการควบคุมอารมณ์และทำให้ใจเย็นลงได้
8. วาลีน (Valine) กระตุ้นการทำงานของระบบการควบคุมอารมณ์ และการประสานงานการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ

จากรายงานการวิจัยของ ดร.มาโกโตะ อูโนะ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ เกียวโต พิสูจน์ว่าคลอโรฟิลล์ที่อยู่ในรูปสาหร่ายเกลียวทองมีผลต่อการเจริญเติบโตของ แบคทีเรียและสัตว์ การเผาผลาญอาหาร การหายใจ กระตุ้นสร้างเม็ดเลือดแดง การทำงานของฮอร์โมนและการกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย
งานวิจัยเกี่ยวกับสาหร่ายเกลียวทองในประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 คณะนักวิจัยได้มาร่วมทำงานกันโดยตั้งเป้าที่จะเริ่มการผลิตในระดับ อุตสาหกรรม โดยได้รับความช่วยเหลือจากสหพันธ์สาหร่ายขนาดเล็กนานาชาติ หลังจากดำเนินงานได้ 2 ปี ก็โอนกิจการงานวิจัยให้กับบริษัทไดนิปปอนอิงค์ กากากูโกกิโอ คาบู ชิกิไกซา บริษัทนี้ประสบความสำเร็จในการผลิตสาหร่ายเกลียวทองในระดับอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีคุณภาพดีและเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป
ผลการวิจัยของศาสตราจารย์ ดร.เคนอิชิ อะกัตซูกะ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่นที่ปรากฎในหนังสือ"The Secreat of Spirulina"พบว่าสาหร่ายสไปรูลิน่ามีลักษณะของความปลอดภัย ดังนี้ คือ
  • เป็นผลิตภัณฑ์ที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
  • ไม่มีผลข้างเคียง แม้ว่าจะใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานสักเท่าใด
  • แม้ว่าบังเอิญจะกินเข้าไปมากเกินขนาด ก็ไม่เกิดเป็นพิษหรือมีผลข้างเคียง
  • เมื่อใช้เป็นประจำทุกวัน จะทำให้ร่างกายแข็งแรงและเพิ่มความต้านทานโรค
ประโยชน์ของสาหร่ายสไปรูลิน่า
- ช่วยลดความเครียด ปวดศีรษะ บำรุงประสาท เป็นอาหารของสมองทำให้กระฉับกระเฉง
- ลดคลอเลสเตอรอลในเส้นเลือด
- ลดอาการอักเสบปวดข้อ ปวดประจำเดือน ปวดจากบาดแผลริดสีดวงทวาร
- เสริมสร้างเซลล์ผิวหนังให้มีสภาพแข็งแรง เสริมสร้างเซลล์ใหม่ของร่างกาย
- เสริมสร้างความเป็นหนุ่มสาว สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น
- เสริมสร้างเส้นผมให้ดกดำ และเส้นผมแข็งแรงลดอาการผมร่วง
- เสริมสร้างพละกำลังให้กับร่างกาย และนักกีฬา
- รักษารูปร่างและน้ำหนักให้พอดี
- บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โรคโลหิตจาง
- ป้องกันและบรรเทาโรคตับอักเสบ โรคตับแข็ง
- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทุกชนิด มีสารกระตุ้นภูมิต้านทานอาจทำลายเซลล์มะเร็งได้
-.ช่วยสร้างแลคโตบาซิลลัส ทำให้การดูดซึมและการย่อยดีขึ้นป้องกันการติดเชื้อ
- บรรเทาอาการต้อมัวให้หายเร็วขึ้น ต้อกระจก และต้อหินให้มีอาการดีขึ้น
- ลดพิษของสารปรอท ขับสารพิษในร่างกาย ช่วยลดกลิ่นปาก
- ช่วยยับยั้งไวรัสเอดส์ สร้างภูมิต้านทานให้ดีขึ้น
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น รักษาความสะอาดในลำไส้
- ช่วยทำให้บาดแผลทั่วไปหายเร็วขึ้น
- รักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร การอักเสบทางเดินอาหารควบคุมกรดในกระเพาะอาหาร
- ปรับระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน
- รักษาหวัด เสริมสุขภาพในรายที่เป็นหอบหืด
- บรรเทาอาการเจ็บคอ ทอนซิลอักเสบ
- เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เหมาะสำหรับวัยหมดประจำเดือน
- ลดอาการปวดไมเกรน
- ป้องกันโรคเหน็บชา
- ช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ ให้มีอาการดีขึ้น
- ช่วยบรรเทาผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์
- ช่วยทำให้หลับง่ายขึ้น 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น